Q&A ตอบปัญหาคาใจโดยคุณหมอ
รวมคำถามที่แม่ไม่กล้าถาม… แต่คุณหมอตอบให้หมด
“การรับมือภาวะหลังคลอด”  โดย พญ.กรรณิการ์ โชครัมย์
สูตินรีแพทย์ โรงพยาบาลพญาไท พหลโยธิน

 

Q:  คุณหมอคะ หลังคลอดแล้วประจำเดือนไม่มาเลย ปกติไหมคะ?

A:  ปกติค่ะ โดยเฉพาะถ้ายังให้นมลูกสม่ำเสมอ ประจำเดือนสามารถหายไปได้ 6 เดือน – 1 ปี
แต่ยังมีโอกาสตกไข่นะคะ จึงควรคุมกำเนิดเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์อีกครั้งค่ะ

Q:  ทำไมหลังคลอดถึงหิวมาก และน้ำหนักขึ้น?

A:  เพราะหลังคลอดร่างกายต้องใช้พลังงานเยอะมากค่ะ โดยเฉพาะเวลาคุณแม่ให้นม ทำให้รู้สึกหิวง่าย เหนื่อยง่าย ซึ่งถือเป็นเรื่องที่พบได้บ่อยเลยค่ะ แนะนำให้เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ เพราะมีผลต่อคุณภาพน้ำนมของลูกค่ะ ส่วนเรื่องน้ำหนัก ควรดูว่าก่อนตั้งครรภ์หนักเท่าไหร่ และขึ้นมากี่กิโล ระหว่างตั้งครรภ์ โดยทั่วไปหลังคลอดน้ำหนักจะลดลงประมาณ 5–10 กิโล แต่บางคนอาจยังมีน้ำหนักค้างอยู่ เพราะความเหนื่อย ความเครียด หรือทานมากกว่าปกติค่ะ  สำหรับการกิน แนะนำให้เน้น โปรตีนสูง จะช่วยให้อิ่มนาน ลดการหิวบ่อย และควรเลี่ยงอาหารหวาน  เพราะยิ่งทำให้หิวเร็วขึ้นค่ะ

 

Q : ปัสสาวะเล็ดหลังคลอดปกติไหมคะ แล้วต้องแก้ยังไงดี?
A : ปัสสาวะเล็ดหลังคลอด ในเดือนแรกถือว่าพบได้ปกติค่ะ แต่ถ้าอาการยังอยู่ เกิน 1 เดือนขึ้นไป แนะนำให้มาปรึกษาแพทย์นะคะ เพราะอาจเกิดจากกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานหย่อน แพทย์จะช่วยตรวจเช็กและวินิจฉัยด้วย
อัลตราซาวด์ เพื่อหาสาเหตุและแนวทางแก้ไขค่ะ

 

Q : ท้องแรกผ่าคลอด น้ำนมมาช้า ปกติไหมคะ?
A :  ปกติค่ะ ส่วนใหญ่ น้ำนมจะมาในวันที่ 3 หลังคลอด และปริมาณจะพอเพียงสำหรับลูกค่ะ
ไม่จำเป็นต้องรีบปั๊มนม ให้ลูกดูดนมเองตามต้องการ และอย่าไปเทียบกับแม่คนอื่น เพราะจะทำให้เครียดแล้ว น้ำนมอาจลดลงได้ค่ะ ระหว่างปั๊มนม ลองเปิดหนังหรือซีรีส์ที่ชอบดูเพื่อผ่อนคลายไปด้วย จะช่วยให้ร่างกายสบายขึ้น และน้ำนมไหลง่ายขึ้นด้วยค่ะ

 

Q: คุณหมอคะ Baby Blues กับ ภาวะซึมเศร้าหลังคลอดต่างกันยังไง?

A:  อาการ Baby Blues พบได้บ่อยมากค่ะ ประมาณ 50–70% ของคุณแม่หลังคลอด โดยเฉพาะคุณแม่ท้องแรก เกิดจากการเปลี่ยนแปลงต่างๆ หลังคลอด ทั้งเรื่องการปรับตัว ความเหนื่อยล้า และการพักผ่อนไม่พออาการแบบนี้มักอยู่ประมาณ ไม่เกิน 2 สัปดาห์ และจะค่อยๆ ดีขึ้นเองค่ะ

แต่ถ้าเป็นภาวะซึมเศร้าหลังคลอด อาการจะหนักกว่า และมักเป็นต่อเนื่องเกิน 2 สัปดาห์ขึ้นไปค่ะ และถ้าคุณแม่มีอาการแบบ นอนมากผิดปกติจนไม่อยากลุกขึ้นมา, ไม่อยากเข้าใกล้ลูก, หรือรู้สึกว่า ไม่อยากเลี้ยงลูก  รับภาระนี้ไม่ไหวจริงๆ แบบนี้ควรรีบพบแพทย์ทันทีนะคะ เพราะถือเป็นสัญญาณว่าอาการเริ่มส่งผลต่อการใช้ชีวิต และต้องได้รับการดูแลค่ะ  

Q : ขอวิธีดูแลจิตใจตัวเองหลังที่พบว่าเป็นซึมเศร้าหน่อยค่ะ
A :  1.ขอความช่วยเหลือทันที จากคุณพ่อหรือคนใกล้ชิดเพื่อนสนิทที่ไว้ใจเพื่อมาช่วยแบ่งเบาภาระในช่วงแรกก่อน   2.สร้างพื้นที่ระบายอารมณ์ หาเพื่อนหรือคนที่คุยด้วยแล้วสบายใจ เพื่อช่วยผ่อนคลายความเครียดและความกดดัน แม่ๆ หลังคลอดควรสังเกตอาการตัวเอง หากความรู้สึกไม่ดีขึ้น หรือมีอาการรุนแรง ควรปรึกษาแพทย์ทันที เพื่อเข้าสู่กระบวนการคัดกรองและรักษาอย่างเหมาะสม ช่วยป้องกันภาวะซึมเศร้ารุนแรงและปัญหาสุขภาพจิตตามมาค่ะ  

บทความนี้จัดทำโดยอิงข้อมูลจาก ” Facebook Baby Moby” แชร์ไลฟ์สด แบบเปิดเป็นสาธารณะ
โดย พญ.กรรณิการ์ โชครัมย์ สูตินรีแพทย์ โรงพยาบาลพญาไท พหลโยธิน

“เพื่อให้คุณแม่เข้าใจภาวะ Baby Blues และซึมเศร้าหลังคลอดได้ง่ายขึ้น”